“AECS ” มองหุ้นไทยฟื้นตัวรับเลือกตั้ง ให้กรอบดัชนี 1,620-1,675 จุด

>>

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS  ระบุว่า  ตลาดหุ้นไทยช่วงปลายเดือนมีโอกาส  พลิกกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยมองภาพรายเดือนดัชนีมีแนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,675 จุด และการ ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของConsensus จะชะลอลง โดยข้อมูลจากBloomberg Consensus ได้ปรับลดประมาณการ EPS ของ SET Index ปี 62 เหลือเพียง 109.99 บาท ลดลง 4.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน

อีกทั้งคาดว่าดัชนีจะกลับมามีมุมมองเชิงบวกตั้งแต่เดือนมีนาคมถึง พฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงก่อนและหลังเลือกตั้งในช่วง 24 มี.ค. นี้ คาดจะทำให้มุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่กังวล Political Riskของประเทศไทยจะลดลง พร้อมกับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้นคาดส่งผลให้ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวดีขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศมีความเคลื่อนไหวผันผวนต่อเนื่องแม้ตลาดจะรับรู้ตัวเลข เศรษฐกิจที่ออกมาน่าผิดหวังจากปัจจัยที่สำคัญดังนี้

  1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด 
  2. ยอดส่งออกจีนเดือนกุมภาพันธ์ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด 
  3. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดคาดการณ์ เศรษฐกิจปี 62 ลงจาก 1.7% เหลือเพียง 1.1%

 

อีกทั้งยังมีโครงการปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้ภาคธนาคาร (TLTRO-III) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ยังมีความเสี่ยงต่อเนื่องที่น่าจับตาดังนี้

  • กำหนดลงมติ Brexit จากรัฐสภาอังกฤษในวันที่ 12-14 มีนาคม มีความไม่แน่นอนจากการแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง (No-deal Brexit)
  • ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 15 มีนาคม ในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

กลยุทธ์การลงทุน 

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุน มองว่าโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้  กลุ่มTurnaround  โดยเลือกหุ้นที่กำไรฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62 ซึ่งมีหุ้นเด่นคือ  TKS, TWPC, BEC และ TVD กลุ่มโรงพยาบาล เพราะเป็นหุ้น Defensive บวกกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ เลือก EKH ,BCH และ BDMS

สุดท้ายกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง เช่น กลุ่มค้าปลีก จากกำลังซื้อที่มากขึ้น เลือกหุ้น  ROBINS และ CPALL กลุ่มท่องเที่ยว  เมื่อประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้น  AOT และกลุ่มสื่อ จากการอัดฉีดเม็ดเงินโฆษณากลับมาอีกครั้ง เลือกกลุ่มดิจิตอลทีวี  แนะนำ RS และกลุ่ม Out of Home  แนะนำ VGI